กอนซาโล การ์เซีย ช่วยให้เรอัลมาดริดเอาชนะยูเวนตุส และเขาให้ความสำคัญกับการแสดงทัศนคติที่ดีกับทีม
2025-07-03 02:39
เรอัล มาดริด เอาชนะ ยูเวนตุส 1-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ด้วยประตูจากกอนซาโล การ์เซีย หลังจากผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ กอนซาโล การ์เซีย กล่าวว่าเขายินดีที่สามารถทำประตูให้กับทีมได้ แต่ยืนยันว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือทัศนคติที่ดีและจิตวิญญาณนักสู้ที่นักเตะแสดงให้เห็น
กองหลังเรอัล มาดริด อาร์โนลด์ ผ่านบอลเข้าหน้าประตูในนาทีที่ 54 จากนั้น กอนซาโล่ การ์เซีย ก็กระโดดขึ้นโขกบอลเข้าประตู ช่วยให้เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0
แม้ว่าผู้รักษาประตูของยูเวนตุส ดิ เกรโกริโอ จะยิงประตูของเรอัล มาดริดได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเวลาถัดมา แต่ทีมของชาบี อลอนโซก็สามารถเอาชนะยูเวนตุสไปได้ 1-0 และผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ
กอนซาโล การ์เซีย ซึ่งทำประตูได้ 3 ลูกและแอสซิสต์อีก 1 ครั้งให้กับเรอัล มาดริดในทัวร์นาเมนต์นี้ กล่าวว่า "ตอนที่ผมถูกเปลี่ยนตัวออกและได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมทั้งสนาม ความรู้สึกนั้นอธิบายไม่ถูกจริงๆ ผมตื่นเต้นและมีความสุขมาก แม้ว่าประตูจะน่าพอใจ แต่สิ่งที่น่าพอใจยิ่งกว่าคือทีมชนะและแสดงผลงานได้ยอดเยี่ยม เราสู้จนถึงนาทีสุดท้าย และผมมีความสุขมากที่เราผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้"
“ผมเห็นอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ส่งบอลจากริมเส้น และสังเกตว่ารูดิเกอร์ไม่สามารถรับบอลได้ทันเวลา ผมคิดว่าบอลเป็นของผมและผมก็แค่วิ่งไปคว้ามัน ไม่สำคัญว่าจะเป็นลูกโหม่ง เข่า หรืออะไรก็ตาม ผมจะจดจำช่วงเวลาแบบนี้และความรู้สึกที่ได้สวมเสื้อตัวนี้อีกครั้งและยิงประตูได้เสมอ”
นอกจากนี้ กอนซาโล การ์เซีย ยังกล่าวอีกว่า "ผมมีความสุขมากที่ยิงได้ 3 ประตูและทำแอสซิสต์ได้ 1 ครั้ง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญกว่าคือเราแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แข็งแกร่งและจิตวิญญาณนักสู้ในฐานะทีม ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ในเกมนี้ นี่คือกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะและการก้าวหน้าที่ประสบความสำเร็จของเรา"
“เรารู้ว่าเกมนี้จะเป็นเกมเข้มข้นตั้งแต่เริ่มเกม แต่เราก็เล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเกมดำเนินไป เราส่งบอลอย่างรวดเร็ว เคลื่อนที่ต่อไปเพื่อลดพลังของฝ่ายตรงข้าม และจ่ายบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษมากขึ้นเพื่อสร้างโอกาสทำประตูมากขึ้น”
ขณะที่เรอัล มาดริดจะพบกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่ทีมของนิโก้ โควัช เอาชนะมอนเทอร์เรย์ไปได้ 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
Related News