ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก – เอ็มบัปเป้ ยิงสองประตูให้ฝรั่งเศสเอาชนะยูเครน 4-0
2025-11-14 02:03

ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม D ฝรั่งเศสซึ่งเล่นในบ้านที่ปาร์กเดส์แพร็งซ์ เอาชนะยูเครนไปได้ 4-0 โดยได้ประตูจากเอ็มบัปเป้, โอลิเซ่ และเอคิติช
สี่นาทีแรกของการแข่งขัน ฝรั่งเศสสร้างโอกาสบุก โอลิเซ่รับบอลและทะลุเข้าไปถึงกรอบเขตโทษก่อนจะยิงไกล แต่มุมประตูนั้นอยู่ตรงกลางมากเกินไป ทำให้ทรูบิน ผู้รักษาประตูชาวยูเครนรับบอลไว้ได้อย่างง่ายดาย ในนาทีที่ 12 ดีญจ่ายบอลยาว และเอ็มบัปเป้ครองบอลได้ แต่ทรูบินสกัดกั้นโอกาสยิงของเขาไว้ได้
นาทีที่ 26 คูนเดจ่ายบอลทะลุช่องให้ราเจน เซอร์กี ซึ่งได้รับบอลจากเอ็มบัปเป้และยิงไกล แต่บอลกลับพุ่งสูง ในนาทีที่ 31 ยูเครนพยายามโต้กลับ และยาเรมชุกถูกโคเน่ กองกลางชาวฝรั่งเศสทำฟาวล์ขณะเลี้ยงบอลขึ้นหน้า ผู้ตัดสินให้โคเน่ได้รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์
นาทีที่ 40 ลาเยน เซอร์กี ส่งบอลให้บาร์โคลา จากนั้นบาร์โคลาก็เข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วยิงไกล แต่ทรูบิน ผู้รักษาประตูของยูเครนเซฟไว้ได้ทันที
ช่วงต้นครึ่งหลัง ฝรั่งเศสได้เตะฟรีคิก แต่ไม่ได้สร้างความกดดันใดๆ ในนาทีที่ 52 นาซารินา กองกลางชาวยูเครน ถูกอูปาเมกาโน ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษจนล้มลงกับพื้น แต่หลังจาก VAR เข้ามาแทรกแซง ผู้ตัดสินกลับตัดสินว่าไม่ได้จุดโทษ
นาทีที่ 53 โอลิเซ่ได้บอลทะลุช่องจากราเจน เซอร์กี และถูกมิฮาฟโกทำฟาวล์โดยมิฮาฟโกซึ่งเหยียบข้อเท้าของเขา ผู้ตัดสินให้ฝรั่งเศสได้จุดโทษและแจกใบเหลืองให้มิฮาฟโก เอ็มบัปเป้ยิงจุดโทษเข้าประตูไป ทำให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ 1-0 ต่อมาในนาทีที่ 58 โอลิเซ่จ่ายบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงเรียดของเอ็มบัปเป้ถูกทรูบิน ผู้รักษาประตูชาวยูเครนสกัดไว้ได้
นาทีที่ 69 โอลิเซ่จ่ายบอลทะลุช่องให้อัคลิอุเช ซึ่งถูกทรูบิน ผู้รักษาประตูชาวยูเครนเซฟไว้ได้ นาทีที่ 76 อาคลิอุเชจ่ายบอลคืนให้ก็องเต้ จากนั้นก็จ่ายบอลเข้ากรอบเขตโทษโดยตรง จากนั้นโอลิเซ่ก็ยิงเข้าประตูไป ส่งผลให้ฝรั่งเศสนำยูเครน 2-0
นาทีที่ 83 ฝรั่งเศสเปิดเกมบุกด้วยการจ่ายบอลชุด เอคิติชรับบอลได้แต่ต้องรับมืออย่างยากลำบาก แต่ลูกยิงของเขาถูกทรูบิน ผู้รักษาประตูชาวยูเครนสกัดออกไปได้ เอ็มบัปเป้ยิงเข้าประตูที่ว่างเปล่า ทำให้ฝรั่งเศสนำ 3-0 ต่อมาในนาทีที่ 88 เอคิติชบุกเข้าไปในกรอบเขตโทษและรับลูกเปิดจากเอ็มบัปเป้ ก่อนจะยิงเรียดเข้าประตูไป ส่งผลให้ฝรั่งเศสนำห่าง 4-0
ในที่สุดฝรั่งเศสก็เอาชนะยูเครนได้อย่างขาดลอย 4-0 ในบ้าน ด้วย 3 คะแนนนี้ ทำให้ฝรั่งเศสนำกลุ่ม D มี 13 คะแนน และผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จ