เซลติกแพ้จุดโทษต่ออเบอร์ดีน 3-4 พลาดสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลเอฟเอคัพสก็อตแลนด์
2025-05-25 03:51
เซลติกแพ้อเบอร์ดีน 3-4 ในการดวลจุดโทษและพลาดการเข้ารอบเอฟเอคัพ สก็อตแลนด์ ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ความฝัน "Triple Crown" ของทีมต้องสิ้นสุดลงเท่านั้น แต่ยังเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของโค้ชเบรนแดน ร็อดเจอร์สที่แฮมป์เดนพาร์คอีกด้วย จิมมี่ ทิลลิ่ง ผู้จัดการทีมอเบอร์ดีน นำทีมคว้าแชมป์สก็อตติชคัพได้เป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี
การเริ่มเกมนั้นไม่ปกติ เซลติกออกนำก่อนจากการทำเข้าประตูตัวเองของอัลฟี่ ดอร์ริงตัน แต่แคสเปอร์ ชไมเคิล แตะบอลเข้าประตูตัวเองในช่วงปลายครึ่งหลัง ทำให้อเบอร์ดีนตามตีเสมอได้ ความผิดพลาดนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็เสมอกันทั้งในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ ในการดวลจุดโทษ ดิมิตาร์ มิตอฟ ผู้รักษาประตูของอเบอร์ดีน กลายเป็นฮีโร่ด้วยการเซฟลูกยิงหลายครั้งเพื่อช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไปได้
ร็อดเจอร์สดูหงุดหงิดหลังจบเกม แต่เขาก็ไม่ได้แก้ตัวและยอมรับว่าทีมควรจะต้องรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ครั้งนี้
ร็อดเจอร์สกล่าวว่า “นี่คือทีมที่มอบสิ่งดีๆ ให้กับผมเสมอมา ทั้งในแง่ของความจริงใจและทักษะ ผมเคยชนะการแข่งขันที่นี่มาหลายนัดแล้ว และยังชนะในนัดชิงชนะเลิศที่อังกฤษด้วย ผมลงเล่นนัดชิงชนะเลิศรวม 11 ครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพ่ายแพ้”
“คุณต้องยอมรับว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของกีฬา เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล ตราบใดที่เราไตร่ตรองอย่างตรงไปตรงมา เราต้องยอมรับว่าผลงานในวันนี้ไม่ดีพอ”
“ไม่มีใครจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียครั้งนี้ ทีมทั้งหมดควรต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้”
“ในช่วงต้นฤดูกาล เป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์ลีก ลีกคัพ และเอฟเอคัพ และเราเหลืออีกแค่เกมเดียวเท่านั้นที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าการบรรลุเป้าหมายทั้งหมดนี้เป็นเรื่องยากเพียงใด”
แม้ว่าจะแพ้เกมนี้ไป แต่ร็อดเจอร์สก็ยังแสดงความเข้าใจต่อชไมเคิลและกล่าวว่าผู้รักษาประตูได้ริเริ่มที่จะขอโทษสำหรับความผิดพลาดดังกล่าว
“เขาขอโทษเพื่อนร่วมทีมสำหรับความผิดพลาดของเขา แต่ผมต้องเน้นย้ำว่าเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาล” ร็อดเจอร์สกล่าวเสริม
“มันยากที่จะหลีกเลี่ยงช่วงเวลาแบบนั้น เรามีโอกาสอีกสักครั้งหรือสองครั้งหลังจากนั้นแต่เราทำไม่ได้”
“น่าเสียดายที่ครั้งนั้นเกิดความผิดพลาดขึ้น”